มาเก๊า (Macao) เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางในการเที่ยวต่างประเทศ ที่สามารถเดินทางได้สะดวกสบายใกล้ประเทศไทย ทำให้มาเก๊าจึงกลายเป็นอีกจุดหมายปลายทางที่ตอบโจทย์สายเที่ยวได้ทุกแบบ ทั้งการไหว้พระ ช้อปปิ้ง และถ่ายรูปมุมชิค ก็สามารถเที่ยวได้โดนใจในทุกสาย ครั้งนี้กรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ และ เพจ Lazy Coup จึงอยากพาทุกคนออกเดินทางเที่ยวมาเก๊าให้เหมือนวาร์ปไปยุโรป โดยใช้เวลาสั้นๆ เพียง 3 วัน 2 คืนเท่านั้น ก็สามารถตามรอยได้! พร้อมแล้วเตรียมตัวแพ็คกระเป๋าแล้วก็ออกเดินทางกันเลย

 

สำหรับทริปนี้การเดินทางมาเที่ยว "มาเก๊า" ถือเป็นการเที่ยวที่คุ้มมากๆ เพราะเป็นประเทศที่เที่ยวง่าย เดินทางสบาย แถมไม่ต้องใช้วีซ่า ทำให้เราสามารถเที่ยวชมสถานที่สวยๆ ถ่ายภาพได้สนุก ได้ฟีลยุโรปที่ค่าครองชีพดีต่อใจมากๆ ส่วนสายการบินไม่ต้องกังวล เราสามารถบินตรงจากกรุงเทพฯ มาลงที่​​ "Macau" ได้เลย ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น เป็นการเดินทางมา "เที่ยวต่างประเทศ" ที่ใช้เวลาน้อยมาก

แถมสายการบินก็มีให้เลือกใช้บริการหลากหลายสาย ซึ่งเราก็สามารถเปรียบเทียบค่าบริการ เซอร์วิสเซสต่างๆ ตามที่เราชอบได้เลย แต่จะให้ดีก็ต้องใช้ "บัตรเครดิตกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ วีซ่า แพลทินัม" หรือ "เอ็กซ์ยู บัตรเครดิต ดิจิทัล" ในการ "จองตั๋วเครื่องบิน" กับสายการบินที่ร่วมรายการตามเงื่อนไข และลงทะเบียนก่อนทำรายการผ่านแอป UCHOOSE ก็ได้รับเครดิตเงินคืนแบบฟินๆไปเลย เพิ่มเติมคลิก เป็นยังไง! นี่แค่ออกตัวก็คือเซฟเงินในกระเป๋าได้แล้วนะ

พิกัดที่ 1 : Parisian Macao Eiffel Tower

เริ่มต้นกันที่พิกัดแรก กับ "Parisian Macao Eiffel Tower" สำหรับนี้จะอยู่ในฝั่งไทปา (Taipa) ของมาเก๊า ซึ่งจะเป็นฝั่งที่เต็มไปด้วยสถานที่สวยๆ บรรยากาศเหมือนยุโรปในละแวกเดียวกันถึง 3 สถานที่ คือ Parisian Macao Eiffel Tower, The Londoner Macao และ The Venetian Macao ที่สามารถแพลนเดินเที่ยวชมความสวยงามต่อเนื่องกันได้สบายๆ

สำหรับไฮไลท์สำคัญของ "เดอะปารีเซียน มาเก๊า" คือ "หอไอเฟล" (Eiffel Tower) ซึ่งหอไอเฟลแห่งนี้เป็นการจำลองมาจากปารีส โดยจะมีขนาดของความสูงอยู่ที่ 160 เมตร หรือ ครึ่งหนึ่งของหอไอเฟลจริง ทำให้เป็นแลนด์มาร์กสำคัญที่ตั้งเด่นสง่ามากที่สุดในย่านไทปา

สำหรับผู้ที่อยากถ่ายรูปกับ "Eiffel Tower" แบบใกล้ชิด สามารถเดินมาที่บริเวณชั้น 7 ของอาคาร "Parisian Macao Eiffel Tower" ได้เลย โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเข้าชม จุดนี้สามารถถ่ายรูปตอนกลางคืนคู่กับอาคารได้อย่างสวยงาม และสามารถมองดูแสงสีของหอไอเฟลเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา หากเรายืนอยู่ในอาคารหอไอเฟลก็จะสามารถมองเห็นสถาปัตยกรรมสวยๆ ฟีลยุโรปในย่านไทปาได้อลังการเต็มตา เรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่แสนจะโรแมนติกสำหรับคู่รักหลายๆ คู่เลยทีเดียว

พิกัดที่ 2 : Le Jardin

ต่อกันด้วยมุมถ่ายภาพที่ดังมากใน Instagram คือ มุมสวนของ "Le Jardin" ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของ "Parisian Macao Eiffel Tower" ตรงนี้จะเป็นสวนสีเขียวขนาดใหญ่ที่สามารถเดินเข้ามาเข้าชมได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ บรรยากาศของสวนนี้ดีต่อใจมาก เพราะมีการปลูกต้นไม้ใหญ่เต็มสองข้างทาง มีการปูหญ้าสีเขียวเอาไว้ตรงกลาง เป็นการเว้นช่องว่างให้เห็นความสวยงามของหอไอเฟล และอาคารได้สวยงาม จนสามารถถ่ายรูปเช็คอินได้ชิคๆ



เอาหล่ะ! บอกจุดเช็คอินให้ถ่ายรูปชิคๆ กันแล้ว ใครที่กำลังวางแผนเตรียมเสื้อผ้าต่างๆ มาเที่ยวถ่ายรูป ก็คงหนีไม่พ้น "ช้อปออนไลน์" อย่างแน่นอน ซึ่งเทคนิคการช้อปที่อยากนำเสนอมากๆ เลย คือ "เอ็กซ์ยู บัตรเครดิต ดิจิทัล" บัตรเครดิตที่ฟีเจอร์เจ๋งเด็ดตอบโจทย์คนชอบช้อปออนไลน์มากๆ ไม่ว่าจะเป็น

1. "0% สั่งได้ทุกอย่าง" เวลาที่เรารูดใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้งในและต่างประเทศ สะสมรวมตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไป ทั้งในและต่างประเทศ ก็สามารถเปลี่ยนเป็นผ่อนชำระ 0% นาน 6 เดือน ได้เลย (ไม่มีดอกเบี้ยเกิดขึ้นสักบาท)เพิ่มเติมคลิก

2. "โค้ดส่วนลดแจกทุกเดือน" ฟินทุกเดือนไปกับโค้ดส่วนลดบนแอปช้อปปิ้งออนไลน์ชั้นนำ ไม่จำเป็นต้องรอช่วง Double Day แล้ว ไม่ว่าจะเป็น Shopee หรือ Lazada เพิ่มเติมคลิก

3. "พอยท์แลกแคชแบ็ค สูงสุด 18%" บัตรเดียวที่ปังสุดบนโลกออนไลน์ ครอบคลุมหลากหลายไลฟ์สไตล์ตลอดปี ผ่าน "บัตรเครดิต XU" ใช้คะแนนสะสมแลกรับเครดิตเงินคืนสุดคุ้ม สูงสุด 18% ง่ายๆ บนแอป UCHOOSE เพิ่มเติมคลิก

4. "ประกันการซื้อสินค้าออนไลน์" หมดกังวลเรื่องการซื้อของออนไลน์ ไม่ได้ของ ของไม่ครบ ของเสียหาย ด้วยแผนประกันการซื้อสินค้าออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์และ Payment Gateway คุ้มครองสูงสุด 20,000 บาทต่อปี* เพิ่มเติมคลิก

ความเริ่ด ความทำถึงของบัตรนี้ไม่ได้หมดแค่นี้ แม้ว่าเราจะไม่ได้ "Shoponline" เราก็สามารถฟินไปกับโปรโมชั่นอีกหลากหลายหมวด ได้ทั้งแคชแบ็ค ส่วนลด กันแบบยาวๆ เพิ่มเติมคลิก และถ้าเราช้อปหนักเกินไปกลัวจ่ายไม่ไหว ก็ไม่ต้องกังวลเลย เพราะฟีเจอร์ "0% สั่งได้ทุกอย่าง" จะเป็นตัวช่วยให้เราสามารถจัดสรรเงินในกระเป๋าให้ได้ดีมากยิ่งขึ้น

พิกัดที่ 3 : The Londoner Macao

แค่เจอ 2 พิกัดแรกเข้าไป ก็น่าจะได้เซลฟี่มาเยอะมากๆแล้ว แต่แน่นอนว่าเราจะยังไม่หยุด! มาต่อกันเลยที่ "The Londoner Macao" จะเป็นแลนด์มาร์กฟีลอังกฤษ ที่มีการจำลอง "อาคารพระราชวังเวสต์มินสเตอร์" ไปจนถึงรัฐสภาอังกฤษที่มีสถาปัตยกรรมอันสวยงาม นอกจากนี้ยังมีการจำลองหอนาฬิกาบิ๊กเบนสูง 96 เมตรเอาไว้ในที่เดียวกัน ซึ่งแค่ภายนอกอาคารก็จะรายล้อมไปด้วยสวนสวยสไตล์อังกฤษขนาดใหญ่ ที่สามารถเดินเล่นถ่ายภาพได้สวยงาม



โดยใครที่เพิ่งเคยมาเที่ยวในย่าน "เดอะ ลอนดอนเนอร์ มาเก๊า" เป็นครั้งแรก การันตีได้เลยว่า จะต้องรู้สึกประทับใจในการตกแต่งสถานที่แน่นอน เพราะตั้งแต่วัสดุที่เขาใช้ออกแบบ ดีไซน์เรียกได้ว่า จัดเต็ม ยิ่งใหญ่ อลังการทุกพื้นที่จริงๆ ทำให้ใครที่อยากถ่ายรูปฟีลยุโรปแบบใช้เวลาและงบประมาณที่น่ารัก ก็สามารถปักหมุดมาที่มาเก๊ากันก่อนได้ นอกจากนี้หากใครต้องการถ่ายรูปคู่กับหอนาฬิกาบิ๊กเบนสูง 96 เมตร ก็สามารถเดินมาที่บริเวณสะพานลอยทางเชื่อมได้ค่ะ มุมนี้จะสามารถถ่ายรูปคู่กับอาคารได้ง่ายมากๆ

พิกัดที่ 4 : The Venetian Macao

ไปกันต่อ...เปิดวาร์ปพาเที่ยวไปแล้วทั้งฝรั่งเศส และอังกฤษ อีกหนึ่งจุดที่ห้ามพลาดเลย คือ "เมืองเวนิส อิตาลี" นั่นเอง โดยความพิเศษของ "The Venetian Macao" คือ การที่มีคลองสีฟ้าใสไหลผ่านตลอดทางเดิน โดยเราสามารถนั่ง "เรือกอนโดลา (Gondola)" เล่นได้ด้วยเช่นกัน โดยอีกหนึ่งไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวหลายคนไปแล้วชอบมากๆ คือ เพดานของ "เดอะ เวเนเชี่ยน มาเก๊า" จะเป็นท้องฟ้าจำลองที่สามารถเคลื่อนไหว เปลี่ยนแสงสีต่างๆ ได้สวยงาม ทำให้การถ่ายรูปที่นี่เน้นอยู่ภายในอาคาร แต่ก็ได้มู้ด Out-door มาก


 

สำหรับใครที่มีแพลน "เที่ยวต่างประเทศ" ขอแนะนำตัวช่วยสุุดปังที่จะช่วยเซฟมันนี่ในกระเป๋าทุกการใช้จ่ายอย่าง "บัตรเครดิตกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ วีซ่า แพลทินัม" เป็นอะไรที่ควรมีมากๆ เพราะมีโปรโมชั่นและฟีเจอร์ที่เหมาะสำหรับทุกคนไม่ว่าจะเป็น

1. "0% สั่งได้ทุกอย่าง" เวลาที่เรารูดค่าใช้จ่ายผ่านบัตรขั้นต่ำ 500 บาทขึ้นไป / เซลล์สลิป และรวมยอดแบ่งชำระเริ่มต้น 3,000 บาทขึ้นไป ก็สามารถเปลี่ยนเป็นผ่อนชำระ 0% นาน 3 เดือน ได้เลย (ไม่มีดอกเบี้ยเกิดขึ้นสักบาท) เพิ่มเติมคลิก

2. "เที่ยวฟินทั่วโลก" กิน เที่ยว ช้อป หรือช้อปออนไลน์ เป็นสกุลเงินต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นจากร้านค้า, บริการในต่างประเทศ หรือจากเว็บไซต์ต่างประเทศเท่านั้น ครบตามเงื่อนไขที่กำหนด รับแคชแบ็คสูง* เพิ่มเติมคลิก

3. "เที่ยวทั่วโลกสุดคุ้ม" เป็นตัวเองได้เต็มที่กับที่เที่ยวที่ใช่ จองที่พัก โรงแรม ตั๋วเครื่องบิน รับแคชแบ็คคืน เมื่อมียอดใช้จ่ายครบตามเงื่อนไขที่กำหนด เพิ่มเติมคลิก

3. "บินเที่ยวทั่วโลก" จะบินใกล้ หรือ บินไกล แค่จองตั๋วเครื่องบินกับสายการบินที่ร่วมรายการ รับแคชแบ็คเงินคืนสุดคุ้ม* เพิ่มเติมคลิก

และถึงแม้ว่าใครที่ไม่ได้ไป "เที่ยวเมืองนอก" บัตรนี้ใช้ในประเทศก็ยังตอบโจทย์เรื่อง "Cashback ยืนหนึ่ง" เหมือนเดิม มีโปรโมชั่นส่วนลด เครดิตเงินคืนแบบครอบคลุมแทบทุกหมวดในชีวิตให้เราได้เอ็นจอยกันตลอดทั้งปี เพิ่มเติมคลิก แถมฟีเจอร์ "0% สั่งได้ทุกอย่าง" ก็ยังช่วยให้เราสามารถบริหารเงินได้คล่องตัวมากขึ้นด้วยเช่นกัน

พิกัดที่ 5 : Miradouro da Taipa Pequena

สำหรับจุดชมวิวที่สวยที่สุดในมาเก๊า คือ "Miradouro da Taipa Pequena" หรือ "Taipa Pequena Lookout" เป็นจุดชมวิวที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้สามารถมาดูวิวแสงเช้าสวยๆ หรือ แสงไฟเมืองสุดอลังการก็ได้ทั้งสองช่วงเวลา โดยจุดชมวิว Miradouro da Taipa Pequena เป็นจุดชมวิวที่เดินทางมาได้ง่ายมากๆ มีลิฟท์โดยสารจากถนนมายังสะพานทางเชื่อม และเดินขึ้นบันได้นิดเดียวก็สามารถเห็นความสวยงามของวิวตรงหน้าได้อย่างสะดวกสบาย

พิกัดที่ 6 : Ruins of Sao Paolo

สำหรับแลนด์มาร์คที่เรียกได้ว่า มาเที่ยวมาเก๊าแล้ว ไม่ได้ถ่ายรูปมุมนี้ ถือว่ามาไม่ถึงมาเก๊าเลย คือ "Ruins of Sao Paolo" เป็นซากปรักหักพังของนักบุญเปาโลค่ะ และยังเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของมรดกโลก UNESCO ด้วย การมาถ่ายรูปกับแลนด์มาร์กนี้ แนะนำให้มาถ่ายรูปตั้งแต่ช่วง 6 - 7 โมงเช้า เพื่อให้สามารถครีเอทมุมถ่ายรูปได้อย่างอิสระ โดยไม่ติดนักท่องเที่ยวคนอื่น



ในสถานที่ใกล้ๆ จะมีตรอกที่ชื่อว่า "Love Lane" มุมนี้จะสามารถถ่ายรูปเช็กอินกับตึกหลากสี พร้อมกับฉากหลังของอาคาร Ruins of Sao Paolo ได้สวยงาม มุมนี้เป็นมุมที่ฮิตมากใน Instagram เช่นกัน โดยในช่วงเช้ามืด จะมีไฟตรอกถนนเปิดอยู่ ทำให้ได้บรรยากาศในการถ่ายรูปไปอีกแบบ

สำหรับทริปนี้ เป็น Travel Guide ของการมาเที่ยว "มาเก๊า" โดยแพลนนี้จะเป็นการท่องเที่ยวที่ได้บรรยากาศความเป็นยุโรปมาก ที่สำคัญเลย คือ ใช้งบไม่เยอะมาก แถมไปได้ด้วยตัวเองในปี 2567 ใครที่อ่านรีวิวนี้แล้วมีแพลนจะเดินทางไปต่างประเทศ ที่นี่ก็เป็นอีก Destination ที่เที่ยวตามรอยได้ง่ายสุดๆ

ทั้งหมดนี้เป็นทริปที่ เพจ Lazy Coup ได้ใช้จ่ายทั้งหมดผ่าน "บัตรเครดิตกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ วีซ่า แพลทินัม" และ "บัตรเครดิต XU" นอกจากรูดจองตั๋วเครื่องบิน ที่พัก กิน ช้อปตลอดทั้งทริปแล้ว ยังเป็นตัวช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายเปลี่ยนยอดรูดเต็มเป็นผ่อน 0% นาน 3 เดือน* ผ่านแอป UCHOOSE ได้ด้วยตนเองและยังได้ "Cash Back" เงินคืนแบบคุ้มๆ ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์เลยค่ะ ใครสายเที่ยวก็ต้องพกบัตรนี้เอาไว้ไปเที่ยวด้วยกัน

ส่วนใครที่ยังไม่มี "บัตรเครดิต" อ่านรีวิวในทริปนี้แล้วรู้สึกว่าบัตรนี้แหละที่ควรมีกระเป๋า แค่มีรายได้ประจำตั้งแต่ 15,000 บาทขึ้นไป ก็ "สมัครบัตรเครดิตออนไลน์" กันได้แล้วนะ ยิ่งตอนนี้มีโปรโมชั่นแรกเข้าสำหรับสมาชิกใหม่ด้วย และขอแนะนำช่องทางใหม่สมัครผ่านแอป UCHOOSE สมัครง่าย อนุมัติไว พร้อมติดตามสถานะผ่านแอปได้เลย เอาเป็นว่าถ้าอยากได้โปรโมชั่นดีๆ ก็อย่าลืมใช้จ่ายผ่าน "บัตรเครดิตกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ วีซ่า แพลทินัม" และ "เอ็กซ์ยู บัตรเครดิต ดิจิทัล" การันตีว่าคุ้มอย่าบอกใครเลยแหละ