24 พ.ย. 2023
3 นาที
24 พ.ย. 2023
3 นาที
24 พ.ย. 2023
3 นาที
ในที่สุด "ญี่ปุ่น" ก็เปิดประเทศแล้ววว สำหรับทริปนี้กรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ และ เพจ Lazy Coup ขอพาทุกคนไปเยือน "ดินแดนแห่งอาทิตย์อุทัย" วินาทีนี้คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเป็นประเทศที่ใครหลายคนเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อที่จะแพ็คกระเป๋าไปเที่ยวกัน ซึ่งก่อนจะไปเราก็มีข้อควรรู้และต้องเตรียมพร้อมกันสักหน่อยก่อนออกเดินทาง โดยผู้ที่ถือพาสปอร์ตสัญชาติไทย จะได้รับการยกเว้นวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่น สำหรับการพำนักระยะสั้นไม่เกิน 15 วัน ที่สำคัญไม่ต้องตรวจ PCR หรือ กักตัวหลังจากเข้าประเทศ หากฉีดวัคซีนที่กำหนดครบ 3 เข็ม แต่...ก่อนจะเดินทางเข้าประเทศเราจะต้องลงทะเบียนผ่าน Visit Japan Web คลิกที่นี่ หากทุกคนได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ก็นับ 1 2 3 ไปตะลุยเที่ยว "เจแปน" กันเลยยย
ในทริปนี้เราจะใช้เวลาด้วยกันทั้งสิ้น 4 วัน 3 คืน โดยจะเป็นการเที่ยวรอบ "ทะเลสาบคาวากุจิโกะ" ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นแลนด์มาร์คสำคัญที่นักเดินทางหลายคนต้องมาเยือน สำหรับการเดินทางขอแนะนำให้บินตรงจากประเทศไทยมาลงยัง "โตเกียว" จะเป็น "สนามบินนาริตะ" หรือ "สนามบินฮาเนดะ" ก็ได้แล้วแต่ความสะดวก แต่เหนือสิ่งอื่นใดก่อนจะบินลัดฟ้าไปเอ็นจอยความสนุกกัน ก็ต้อง "จองตั๋วเครื่องบิน" กันซะก่อน ครั้งนี้เราบินด้วย "สายการบินไทย" และก็ไม่ลืมที่จะหยิบ "บัตรเครดิตกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ วีซ่า แพลทินัม" มาจ่ายแน่นอน เพียงลงทะเบียนก่อนทำรายการ และมียอดใช้จ่ายตามเงื่อนไขก็รับเครดิตเงินคืนฟินๆไปเลย เพิ่มเติมคลิก
และเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับตัวเองในทริปนี้ อีกหนึ่งช้อยส์ที่ทุกคนควรให้ความสำคัญนั่นก็คือการ "เช่ารถ" ซึ่งในครั้งนี้เราก็จะเช่าผ่าน "Nippon Rent A Car" และขอแนะนำให้เช่าบัตร ETC มาด้วย เพราะมีส่วนลดค่าทางด่วน ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายมากขึ้น อย่าลืมทำใบขับขี่สากลมาก่อนล่วงหน้า และต้องเป็นใบขับขี่สากลที่มีอายุ 1 ปี ด้วยนะ
เริ่มออกสตาร์ทวันแรกเราก็ไปชมความงามกันที่ "Koishikawa Botanical Garden" สวนพฤกษศาสตร์ที่ดีและเก่าแก่ที่สุดในโตเกียว ถือว่าเป็นจุดเช็คอินยอดฮิตที่ใครมาประเทศญี่ปุ่นต่างก็ต้องมาที่นี่ เพราะนอกจากจะมีมุมอุโมงค์เมเปิ้ลในช่วงใบไม้แดงให้ถ่ายรูปแล้ว ที่แห่งนี้ก็ยังเป็นจุดชมซากุระที่มีชื่อเสียงอีกด้วย เมื่อเราได้เข้ามาสัมผัสบรรยากาศที่นี่ บอกเลยว่าเราจะหลงรักในธรรมชาติจนถอนตัวไม่ขึ้นเลยแหละ แค่ลองยืนหลับตาแล้วสูดอากาศเข้าไปให้เต็มปอด ความเหนื่อยล้าที่สะสมมาก็หายไปโดยปริยายเลย
ถ้าใครยังดื่มด่ำกับธรรมชาติไม่สาแก่ใจก็มาต่อกันที่ "สวนสาธารณะโชวะคิเน็น" หรือ "สวนอนุสรณ์โชวะ" ที่ตั้งอยู่ในเขตอะคิชิมะและเขตทะชิคะวะในกรุงโตเกียว ถือเป็นแหล่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในการพักผ่อนหย่อนใจ ที่นี่เต็มไปด้วยพื้นที่สวนอันกว้างใหญ่ ห้อมล้อมไปด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาพันธุ์ และไฮไลท์ที่นี่ก็คือการมาชมความงามของ "ต้นแปะก๊วย" ที่มีสีเหลืองทองอร่าม งามจนใจเจ็บไปหมด ฟินจนไม่รู้จะหาคำไหนมาบรรยาย รับรองว่าใครที่ได้มาแล้วต้องมีรูปถ่ายสวยๆกลับไปอย่างแน่นอน
ไปเรียกน้ำย่อยกันมา 2 ที่แล้ว สำหรับใครที่ไม่ได้ "เช่ารถ" เราก็มาเลือกเดินทางกันแบบง่ายๆฉบับงบประหยัดกันด้วยการนั่งรถไฟ โดยสถานที่แห่งนี้เราเรียกว่า "สถานี Kawaguchiko" ศูนย์กลางจักรวาลของการเดินทางเพื่อต่อรถบัสไปยังสถานที่ท่องเที่ยว หรือ ที่พักต่างๆ ซึ่งใครที่ดวงดีหน่อยพอมาถึงแล้วจะได้เจอ "ภูเขาไฟฟูจิ" ที่ออกมาเซฮัลโหลต้อนรับกันตั้งแต่ก้าวเท้าไปถึง นอกจากนี้ภายในสถานียังเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากมาย เรียกได้ว่าอยากได้อะไรที่นี่ก็มีครบ แถมเจ้าหน้าที่ก็น่ารักคอยให้บริการตอบคำถามเราด้วยความเป็นมิตรอีกด้วย
ใครที่เป็นสายอาร์ตรับรองว่าต้องถูกใจที่นี่อย่างแน่นอน หลายคนมักจะเรียกว่า "พิพิธภัณฑ์เครื่องดนตรี" หรือ "พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี" ก็สุดแท้แต่คนจะเรียก ซึ่งที่นี่จะจัดเก็บสะสมและจัดแสดงเครื่องดนตรียุโรปโบราณ ภายในอาคารจะมีเครื่องดนตรีที่บรรเลงเพลงแบบอัตโนมัติตั้งเด่นเป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้ยังมีการแสดงจากนักดนตรีเพลงคลาสสิค การแสดงโอเปร่าสดประสานเสียง ให้เราได้เคลิ้บเคลิ้มไปกับเสียงเพลงอีกด้วย ส่วนนอกตัวอาคารเป็นสวนสไตล์ยุโรป มีสะพานเล็กๆให้เราได้ไปเซลฟี่กัน โดยฉากหลังเป็น "ภูเขาไฟฟูจิ" ขอบอกว่าแค่มาที่นี่ก็รู้สึกว่าคุ้มค่าในการเดินทางแล้ว
แน่นอนแหละ...มาถึงตรงนี้แล้วก็ขอ Tie-in กันสักหน่อย สำหรับตัวช่วยดีๆที่จะทำให้การเดินทางของเราไม่มีสะดุดตั้งแต่ออกจากบ้าน ฟีลตัวแม่จะแคร์เพื่อให้กับ "บัตรเครดิตกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ วีซ่า แพลทินัม" บัตรเดียวตอบโจทย์ครบทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะกิน เที่ยว ช้อป เติมน้ำมัน จองตั๋วเครื่องบิน และอื่นๆอีกมากมาย เพราะมีโปรโมชั่นและฟีเจอร์ที่เหมาะสำหรับทุกคนนั่นก็คือ
1. "0% สั่งได้ทุกอย่าง" เวลาที่เรารูดค่าใช้จ่ายผ่านบัตรขั้นต่ำ 500 บาทขึ้นไป / เซลล์สลิป และรวมยอดแบ่งชำระเริ่มต้น 3,000 บาทขึ้นไป ก็สามารถเปลี่ยนเป็นผ่อนชำระ 0% นาน 3 เดือน ได้เลย (ไม่มีดอกเบี้ยเกิดขึ้นสักบาท) เพิ่มเติมคลิก
2. "#คืนทุกครั้งทันทีที่ใช้" รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 5%* ครอบคลุมแทบทุกหมวดในชีวิต แถมยังสามารถตรวจสอบแทรคกิ้งยอดใช้จ่ายที่ร่วมแคมเปญ และยอดเงินคืนที่จะได้รับง่ายๆผ่านแอป UCHOOSE เพิ่มเติมคลิก
3."เที่ยวฟินทั่วโลก" กิน เที่ยว ช้อป หรือช้อปออนไลน์ เป็นสกุลเงินต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นจากร้านค้า, บริการในต่างประเทศ หรือจากเว็บไซต์ต่างประเทศเท่านั้น ครบตามเงื่อนไขที่กำหนด รับแคชแบ็คสูงสุด 30,000 บาท* เพิ่มเติมคลิก
มาถึงที่พักในคืนแรกกันบ้างขอพาไปทิ้งตัวลงนอนกันที่ "Hoshinoya Fuji" ที่พัก "สไตล์มูจิ" ตั้งอยู่ในป่าสน ใบไม้เปลี่ยนสี บอกเลยว่าน่ารักมากกกกก ถ่ายรูปมุมไหนก็สวยทุกมุม เงียบสงบ และได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด เห็นวิว "ฟูจิซัง" แบบชัดเจนแจ่มแจ้ง เหมาะสำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว ที่นี่ถือเป็นที่พักที่ดีที่สุดใน "Kawaguchiko" ภายในเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาหารอร่อย แถมบรรยากาศโดยรอบชวนให้รู้สึกรีแล็กซ์ผ่อนคลาย ทำให้หลงมนต์เสน่ห์จนอยากไปซ้ำหลายๆรอบ
ไม่ต้องสงสัยไปถ้าการเดินทางในครั้งนี้จะพาทุกคนไปเที่ยวสวนบ่อย เริ่มต้นวันที่ 2 ของทริปกันที่ "สวนโออิชิ" ที่นี่ถือเป็นอีกหนึ่ง Destination ที่ทุกคนต้องมาเช็คอินกันจริงๆนะ เพราะเป็นจุดที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นจุดชมวิว "ภูเขาไฟฟูจิ" ที่สวยอันดับต้นๆ ตั้งอยู่ริมฝั่ง "ทะเลสาบคาวากุจิโกะ" โดยพื้นที่แห่งนี้จะมีการปลูกดอกไม้ต่างๆ ตามฤดูกาลตลอดทั้งปี ทำให้แต่ละช่วงเวลาที่ได้ไปสัมผัส ความงดงามก็จะแตกต่างกันออกไป ยิ่งถ้าไปในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี เราจะได้เห็น "ต้นโคเชีย" ที่จะเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีแดง สวยแบบเยียวยาจิตใจเราได้เป็นอย่างดี
ไปต่อกันที่ "อุโมงค์ใบเมเปิ้ล" หรือที่ใครหลายคนมักเรียกว่า "ทางเดินสายต้นเมเปิ้ล" แต่จริงๆแล้วที่แห่งนี้มีชื่อว่า "โมมิจิ ไคโร" ถือเป็นไฮไลท์เด็ดของการไปเที่ยว "ทะเลสาบคาวากุจิโกะ" ยิ่งการไปเที่ยวในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีแบบนี้ บอกเลยว่าตรึงจิตตรึงใจมาก สีสันสดใสคัลเลอร์ฟูลจากใบเมเปิ้ล ที่ผลัดใบและร่วงหล่นลงมาปกคลุมพื้นที่โดยรอบสวยสะพรึงจนอยากหยุดเวลานี้ไปนานๆ และสถานที่แห่งนี้เราสามารถเลือกได้เลยว่าจะมาช่วงเช้า สาย บ่าย เย็น หรือกลางคืนก็ได้ทั้งนั้น มาแล้วไม่ผิดหวังแน่นอน
เดินทางกันมาหลายที่แล้วก็ต้องขอแวะเติมพลังกันสักหน่อย แล้วมาถึง "ญี่ปุ่น" ทั้งทีนอกจากปลาดิบที่ขึ้นชื่อแล้ว ก็ห้ามพลาดร้านเนื้อย่างโดยเด็ดขาด มื้อนี้ขอพาไปอิ่มอร่อยกันที่ "Makigari" ร้านเด็ดชื่อดังที่ใครมาแล้วก็ไปลองชิมสักครั้งในชีวิต โดยเมนูที่สั่งจะเป็น "เนื้อ Kuroge Wagyu A5" ขนาด 200 กรัม แค่เห็นลายเนื้อก็รู้แล้วว่าอร่อยมากแค่ไหน ซึ่งพอได้เอาเข้าปากก็คือ...อร่อยมาก เนื้อนุ่มละมุนลิ้น ละลายในปาก ดีจนไม่อยากให้หมดเลย และแน่นอนเราก็ไม่พลาดที่จะหยิบ "บัตรเครดิตกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ วีซ่า แพลทินัม" มาจ่ายในครั้งนี้ ใครที่แอบคิดว่าจ่ายแล้วจะคุ้มมั้ย บอกเลยว่าถูกใจแน่นอน เพราะแค่เรามียอดใช้จ่ายสะสมเต็มจำนวนเป็น "สกุลเงินต่างประเทศ" ตามเงื่อนไขที่กำหนด ก็รับแคชแบ็คไปเลย มันเริ่ดตรงนี้! เพิ่มเติมคลิก
เที่ยวกันจนเพลินตอนนี้ก็ถึงเวลาเข้าที่พักกันแล้ว สำหรับค่ำคืนนี้ขอพาไปที่โรงแรม "The Garden" สถานที่พักผ่อนที่แสนจะอบอุ่นในย่าน "Kawaguchiko" ที่พักตกแต่งสไตล์มินิมอล เน้นคุมโทนสีขาวสบายตา บรรยากาศปลอดภัยเหมือนอยู่ที่บ้าน ซึ่งที่พักตั้งอยู่ไม่ห่างจาก "สถานีคาวากุจิโกะ" เลย อะไรจะดีไปกว่าลืมตาในตอนเช้าแล้วเห็น "ภูเขาไฟฟูจิ" ใครที่คิดจะมาพักที่นี่รับรองว่าดีจนอยากยกที่แห่งนี้กลับประเทศไทยด้วยแน่นอน ส่วนการจองห้องพักขอแนะนำให้ใช้ "บัตรเครดิตกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ วีซ่า แพลทินัม" เพียงจองผ่าน "Booking" ก็ได้รับส่วนลด หรือ เครดิตเงินคืน เพิ่มเติมคลิก
เวลาผ่านไปไวเหลือเกินตอนนี้ก็เข้าสู่ช่วงวันที่ 3 ของการเดินทางในครั้งนี้แล้ว ที่แห่งนี้คือ "เจดีย์แดงชูเรโตะ" หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ "เจดีย์ 5 ชั้น" ตั้งอยู่ที่ "เมืองฟูจิโยชิดะ" จังหวัดยามานาชิ ถือเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่เราจะได้เห็นทัศนียภาพของ "ภูเขาไฟฟูจิ" อย่างเต็มตา ขอบอกเลยว่าสวยมากจริงๆ อากาศก็ดีเป็นใจสุดๆ โดยเราสามารถเดินขึ้นบันไดไปชมวิวได้แบบไม่ลำบาก มีระเบียงให้ยืนชมวิวแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ใครที่มาที่นี่ขอแนะนำให้มาตั้งแต่เช้าตรู่ ยิ่งพอใกล้ฟ้าเริ่มสว่างแสงก็สวยมากเลย
ก่อนจะไปตะลุยเที่ยวกันต่อ ขอแวะมาบอกที่พักนิดนึง คืนนี้เราจะปักหลักนอนกันที่ "โรงแรมมิซโน" โรงแรมวิวสวยแห่งทะเลสาบ "Kawaguchiko" ทันทีที่ก้าวขาเข้าไปในบริเวณที่พักบอกเลยว่าเราจะต้องประทับใจที่นี่แน่ๆ ทุกพื้นที่ของโรงแรมเราสามารถมองเห็นวิว "ภูเขาไฟฟูจิ" ได้แบบ 360 องศา นอกจากนี้ยังมี Rooftop Bar ให้ได้นั่งชิลล์ มีออนเซน Outdoor ให้ไปนอนแช่ ส่วนเรื่องของอาหารก็อร่อย ถูกใจทุกเมนูที่สั่งมา พนักงานก็ใส่ใจในทุกรายขั้นตอนของการบริการ
และนี่คือ "Lawsons" ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสาขาที่วิวสวยที่สุดในญี่ปุ่น เห็นจากภาพก็รู้แล้วว่าสวยจริงไม่จกตาอย่างแน่นอน ออกจาก "สถานีคาวากุจิโกะ" เดินมาทางซ้ายก็จะเจอกับมุมนี้เลย ด้านหลังจะเห็นเป็น "ฟูจิซัง" ตั้งเด่นเป็นสง่า ยิ่งฟ้าแจ่มๆ ยิ่งถ่ายรูปออกมาสวยมากๆ ใครไปแล้วห้ามลืมมาเช็คอินตรงนี้นะ ไม่เช่นนั้นจะถือว่ามาไม่ถึง
เอาหล่ะงานเลี้ยงย่อมต้องมีวันเลิกรา มาถึงพิกัดสุดท้ายก็คือ "FUJIYAMA Twin Terrace" จุดชมวิว "ภูเขาไฟฟูจิ" เปิดใหม่ล่าสุดในโซนทะเลสาบแห่งนี้ และกำลังเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่กำลังได้รับความนิยม ที่นี่เราจะได้เห็นวิวทิวทัศน์แบบครบองค์ประกอบ สำหรับใครที่อยากจะไปชมความงามของที่แห่งนี้ จะมีรถบัสขึ้นมาส่งช่วงเวลาประมาณ 9 โมงเช้า แต่ถ้าอยากเห็นพระอาทิตย์ขึ้น จะต้องใช้การเดินเท้าจากลานจอดรถมาเท่านั้น
เป็นยังไงกันบ้างทุกคน สำหรับการไปตะลุย "เจแปน" เที่ยวรอบทะเลสาบ "Kawaguchiko" แบบแพลนทริปเที่ยวกันแบบจุใจ 4 วัน 3 คืน สวย ฟิน ถูกใจสมการรอคอยเลยใช่หรือเปล่า !? ใครที่กำลังเล็งว่าจะไปเที่ยวเร็วๆนี้ก็อย่าลืมพก "บัตรเครดิตกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ วีซ่า แพลทินัม" ไปด้วยนะ นอกจากจะสนุกได้แบบเต็มที่ทั้งกิน เที่ยว ช้อปแล้ว ยังเป็นตัวช่วยเซฟความประหยัด และได้เงินคืนกลับมาด้วย เพราะมีโปรโมชั่นและฟีเจอร์ที่เหมาะสำหรับทุกคนไม่ว่าจะเป็น
1. "0% สั่งได้ทุกอย่าง" เวลาที่เรารูดค่าใช้จ่ายผ่านบัตรขั้นต่ำ 500 บาทขึ้นไป / เซลล์สลิป และรวมยอดแบ่งชำระเริ่มต้น 3,000 บาทขึ้นไป ก็สามารถเปลี่ยนเป็นผ่อนชำระ 0% นาน 3 เดือน ได้เลย (ไม่มีดอกเบี้ยเกิดขึ้นสักบาท) เพิ่มเติมคลิก
2. "#คืนทุกครั้งทันทีที่ใช้" รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 5%* ครอบคลุมแทบทุกหมวดในชีวิต แถมยังสามารถตรวจสอบแทรคกิ้งยอดใช้จ่ายที่ร่วมแคมเปญ และยอดเงินคืนที่จะได้รับง่ายๆผ่านแอป UCHOOSE เพิ่มเติมคลิก
3."เที่ยวฟินทั่วโลก" กิน เที่ยว ช้อป หรือช้อปออนไลน์ เป็นสกุลเงินต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นจากร้านค้า, บริการในต่างประเทศ หรือจากเว็บไซต์ต่างประเทศเท่านั้น ครบตามเงื่อนไขที่กำหนด รับแคชแบ็คสูงสุด 30,000 บาท* เพิ่มเติมคลิก
ส่วนใครที่ยังไม่มี "บัตรเครดิต" อ่านรีวิวในทริปนี้แล้วรู้สึกว่าบัตรนี้แหละที่ควรมีกระเป๋า แค่มีรายได้ประจำตั้งแต่ 15,000 บาทขึ้นไป ก็ "สมัครบัตรเครดิตออนไลน์" กันได้แล้วนะ ยิ่งตอนนี้มีโปรโมชั่นแรกเข้าสำหรับสมาชิกใหม่ด้วย และขอแนะนำช่องทางใหม่สมัครผ่านแอป UCHOOSE สมัครง่าย อนุมัติไว พร้อมติดตามสถานะผ่านแอปได้เลย เอาเป็นว่าถ้าอยากได้โปรโมชั่นดีๆ ก็อย่าลืมใช้จ่ายผ่าน "บัตรเครดิตกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ วีซ่า แพลทินัม" การันตีว่าคุ้มอย่าบอกใครเลยแหละ
ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี
3 ก.ย. 2024
126861
7 พ.ย. 2024
96120
20 พ.ค. 2024
45424