เผลอแป๊บเดียวใครจะไปคิดว่าเดินทางมาถึงช่วงปลายปี 2023 กันแล้ว ต้องยอมรับเลยว่าปีนี้เป็นปีที่สาหัสพอสมควรสำหรับหลายๆคน และแน่นอนว่าสิ่งที่จะเยียวยาจิตใจได้ คงหนีไม่พ้นการออกเดินทางท่องเที่ยว ทริปนี้กรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ และ เพจ Lazy Coup จะพาทุกคนไปผจญภัยกันที่ "น่าน" จังหวัดยอดฮิตช่วงปลายฝนต้นหนาวที่พลาดไม่ได้ ถ้าเตรียมพร็อพ จัดกระเป๋าพร้อมเดินทางเรียบร้อยแล้วก็ลุยกันเลยยย

จุดเช็คอินที่ 1 : นาตาทา Café & Farm Stay

สถานที่แรกของทริปนี้ที่เราจะพาไปนั่นก็คือ "นาตาทา Café & Farm Stay" คาเฟ่และโฮมสเตย์เล็กๆ สไตล์มินิมอลสุดแสนจะน่ารัก รายล้อมไปด้วยทุ่งนาเขียวขจี เงียบสงบและได้ความเป็นส่วนตัว ต้องบอกเลยว่าที่นี่คือจุดพักเหนื่อยยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องแวะมา นอกจากบรรยากาศ​ดี ลมเย็นสบายแล้ว ยังเป็นคาเฟ่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ส่วนมุมถ่ายรูปก็เยอะมาก ยิ่งซิกเนเจอร์ของที่นี่คือ "การขึ้นบันไดลอยฟ้า" ไปชมวิวทุ่งนาแบบสุดลูกหูลูกตา รับรองว่าได้รูปแบบเริ่ดๆกลับไปแน่นอน

เก็บภาพกันได้เยอะแล้วก็ต้องเติมพลังกันสักหน่อย โดยคาเฟ่แห่งนี้มีบริการเครื่องดื่มหลากหลายเมนู และอีกไฮไลท์ที่มาแล้วยังไงก็ต้องลองชิม ก็คือ "พิซซ่าโฮมเมด" ซึ่งเราจะได้สวมวิญญาณมาสเตอร์เชฟ รังสรรค์พิซซ่าแป้งบางกรอบ ตั้งแต่ขั้นตอนแรก จนถึงขั้นตอนนำไปเข้าอบด้วยเตาดินปั้น และจะบอกว่าที่ "นาตาทา" มีห้องพักในรูปแบบ Farmstay เอาไว้ต้อนรับด้วยนะ ราคาห้องพักเริ่มต้นที่ 1,200 - 1,500 บาท เปิดทุกวัน เวลา 09.00 น. - 18.00 น. หยุดทุกวันพุธ ยกเว้น วันที่ตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์

จุดเช็คอินที่ 2 : นาขั้นบันได บ้านเวร

มาต่อกันที่ทุ่งนาธรรมดาที่ไม่ธรรมดากันดีกว่ากับแลนด์มาร์คสุดลึกลับ ที่ใครมาต่างก็ต้องหลงรักกันเป็นแถว "จุดชมวิว นาขั้นบันได" ที่อยู่ห่างจากสะปันเพียง 30 นาที บอกได้คำเดียวว่าสวยมากแม่ งามจนใจเจ็บไปหมด คือฟินจนไม่รู้จะหาคำไหนมาบรรยายดี ที่นี่ได้รับการยอมรับว่าเป็นทุ่งนาสวยอันดับต้นๆ ของจังหวัด "น่าน" เหมาะแก่การมาพักผ่อนในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์เป็นที่สุด

"นาขั้นบันได" คือจุด Unseen ที่ยิ่งยืนมอง ยิ่งรู้สึกมีความสุขและอิ่มเอมใจ จนเราคิดว่าประเทศไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยขนาดนี้เลยหรอ อากาศเย็นสบาย สูดอากาศบริสุทธิ์ได้อย่างเต็มที่ มองไปทางไหนก็เห็นทุ่งนาสีเขียวที่ถูกโอบล้อมด้วยภูเขา มีธารน้ำไหลผ่าน ที่สำคัญการเดินทางก็แสนจะสะดวกสบาย จอดรถปุ๊บก็ถึงเลย ไม่ต้องเดินให้เหนื่อย รับรองว่าใครที่ได้มาไม่ผิดหวังแน่นอน

จุดเช็คอินที่ 3 : บ้านธารหมอก At สะปัน

มาถึงที่นอนกันบ้าง สำหรับทริปนี้ขอพาไป "บ้านธารหมอก At สะปัน" ที่พักเปิดใหม่ทรงเอเฟรม หรือ ทรงสามเหลี่ยม "สไตล์มูจิ" บอกเลยว่าน่ารักมากกกกก ถ่ายรูปมุมไหนก็สวยทุกมุม เงียบสงบ และได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด เหมาะสำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว ไม่ชอบความวุ่นวาย มาพักที่นี่นอกจากจะได้เสพทัศนียภาพโดยรอบแล้ว เวลานอนเราจะได้เคลิ้บเคลิมไปกับเสียงน้ำที่ไหลจากลำธาร ฟินกับหมอกยามเช้า แค่นี้ก็เยียวยาจิตใจเราได้เป็นอย่างดี

จุดเช็คอินที่ 4 : หยุดเวลา คาเฟ่

ไปต่อกันที่ "หยุดเวลา คาเฟ่" คาเฟ่มุมสูงแห่งหมู่บ้านสะปัน การันตีวิวหลักล้าน สวยซะจนอยากหยุดเวลาไว้เลยจริงๆ คาเฟ่แห่งนี้ถูกรายล้อมด้วยภูเขาและทุ่งนาสีเขียว ถึงแม้การเดินทางอาจจะยากและใช้เวลา แต่รับประกันเลยว่าคุ้มค่าอย่างแน่นอน ยิ่งตอนเช้าเวลาหมอกลง พูดได้คำเดียวว่า อือหื้อ...นึกว่าอยู่สวิตเซอร์แลนด์

ในส่วนของเมนูก็มีให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่ม กาแฟ เบเกอรี่ ของทานเล่น ซึ่งราคาก็ย่อมเยาว์ และรสชาติก็อร่อยถูกปาก ใครที่มาถึง "น่าน" แล้วอย่าลืมแวะมาที่นี่ด้วยนะ ไม่อย่างนั้นจะถือว่ามาไม่ถึง เปิดทุกวัน เวลา 06.00 น. - 18.00 น.

จุดเช็คอินที่ 5 : ปู๋ ป๋าล์ คันนา ปัว

มาถึงที่สุดท้ายแล้ว ที่พักน่ารักที่ห้องพักตกแต่งไม่ซ้ำกัน จะเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจาก "ปู๋ ป๋าล์ คันนา ปัว" ห้องพักมีให้เลือกด้วยกันถึง 5 แบบ ใครที่ต้องการมุมพักผ่อนแบบจริงๆ ถือว่าตอบโจทย์มาก ที่พักถูกออกแบบให้มีความเป็นส่วนตัว เพราะตั้งอยู่กลางนา ห้องพักมีอ่างอาบน้ำทุกห้อง เราสามารถนอนแช่อ่างชมวิวสวยๆกันได้เลย ยิ่งตอนเย็นเราจะได้เห็นพระอาทิตย์ตกดิน ขอบอกเลยว่าดีงามพระราม 8 มาก อยากให้ทุกคนได้มาลองจริงๆ

นอกจากนี้ภายในที่พักยังมีหลายจุดที่ถ่ายภาพออกมาได้สวยมากๆ บอกได้เลยว่านี่คือที่เดอะเบสที่จะสร้างความประทับใจให้คุณไม่รู้ลืม ส่วนด้านการบริการพนักงานก็เอาใจใส่และบริการดีเลย อาหารก็อร่อย ส่วนใครที่อ่านรีวิวแล้วรู้สึกอยากลองมาที่ "ปู๋ ป๋าล์ คันนา ปัว" เพื่อสัมผัสกับความสุขที่ห้อมล้อมไปด้วยขุนเขาและธรรมชาติ ก็สามารถจองที่พักโดยใช้ "บัตรเครดิตกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ วีซ่า แพลทินัม" จองผ่าน "Agoda" ได้เลย ตอนนี้มีโปรโมชั่นสุดคุ้มรับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 7%* เพิ่มเติมคลิก ทุกอย่างเพอร์เฟ็คขนาดนี้ถ้าไม่ไป...ทนไหวเหรอ

ส่วนอุปกรณ์ตัวเก่งที่ใช้ในการถ่ายภาพสวยๆของทริปนี้ ทุกคนสามารถตามไปเป็นเจ้าของกันได้เลย อย่างกล้องถ่ายภาพ "Sony A7C" เป็นกล้อง Full Frame Mirrorless ที่มีความเบาและค่อนข้างกระทัดรัด พกพาได้สะดวก ถ่ายได้ทั้งภาพนิ่ง และวิดีโอ ตัวเดียวครบจบทุกสิ่ง ยิ่งใช้จ่ายผ่าน "บัตรเครดิตกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ วีซ่า แพลทินัม" การันตีว่าคุ้มสุดๆ สามารถเลือกได้ทั้งแบบรูดเต็ม และผ่อนชำระ

1. สายรูดเต็ม : "โปรโมชั่นรูดหมวดไหนก็ได้ Cash Back" รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 5% เพียงมียอดใช้จ่ายสะสมตามหมวดที่ร่วมรายการ เพิ่มเติมคลิก นอกจากจะได้คะแนนสะสมแล้ว ยังสามารถทำรายการ "0% สั่งได้ทุกอย่าง" ได้ด้วยนะ (แต่ถ้าทำรายการ 0% สั่งได้ทุกอย่าง จะไม่ได้รับคะแนนสะสม) เพิ่มเติมคลิก

2. สายผ่อน : "ผ่อนกล้อง และอุปกรณ์ถ่ายภาพ O%*" พร้อมรับเงินเครดิตคืนสูง บอกเลยว่าผ่อนชิลล์สบายมากเว่อร์ เพิ่มเติมคลิก

ก็ตามสโลแกนคนเที่ยวเก่งอย่างเรา ก็ต้องมีทริคและตัวช่วยดีๆที่ทำให้เราไปเที่ยวได้อย่างสนุกเต็มที่ แถมประหยัด และได้เงินคืนกลับมา ก็ต้องยกความดีความชอบให้กับ "บัตรเครดิตกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ วีซ่า แพลทินัม" บัตรเดียวตอบโจทย์ครบทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะกิน เที่ยว ช้อป เติมน้ำมัน และอื่นๆอีกมากมาย เพราะมีโปรโมชั่นที่เหมาะสำหรับทุกคนนั่นก็คือ

1. "0% สั่งได้ทุกอย่าง" เวลาที่เรารูดค่าใช้จ่ายผ่านบัตรขั้นต่ำ 500 บาทขึ้นไป / เซลล์สลิป และรวมยอดแบ่งชำระเริ่มต้น 3,000 บาทขึ้นไป ก็สามารถเปลี่ยนเป็นผ่อนชำระ 0% นาน 3 เดือน ได้เลย (ไม่มีดอกเบี้ยเกิดขึ้นสักบาท) เพิ่มเติมคลิก

2. "#คืนทุกครั้งทันทีที่ใช้" รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 5%* ครอบคลุมแทบทุกหมวดในชีวิต แถมยังสามารถตรวจสอบแทรคกิ้งยอดใช้ที่ร่วมแคมเปญ และยอดเงินคืนที่จะได้รับง่ายๆผ่านแอป UCHOOSE เพิ่มเติมคลิก

จบลงแล้วสำหรับการเดินทางไปสูดบรรยากาศบริสุทธิ์ที่จังหวัด "น่าน" หวังว่าทริปนี้คงจะถูกใจหลายคนไม่มากก็น้อย เรียกได้ว่านี่แหละคือการพักผ่อนที่ดีที่สุดในช่วงปีนี้เลย นอกจากจะสงบแล้วยังได้ความเป็นส่วนตัวมากๆ และเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับการเดินทางก็ต้องยกนิ้วให้กับ "บัตรเครดิตกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ วีซ่า แพลทินัม" จะใช้จ่ายหมวดไหนก็คุ้มแทบทุกหมวดในชีวิต และใครที่ยังไม่มี "บัตรเครดิต" ก็สามารถ "สมัครบัตรเครดิตออนไลน์" ได้เลยแค่มีรายได้ประจำตั้งแต่ 15,000 บาทขึ้นไป และขอแนะนำช่องทางใหม่สมัครผ่านแอป UCHOOSE สมัครง่าย อนุมัติไว พร้อมติดตามสถานะผ่านแอปได้เลย แถมช่วงนี้ยังมีโปรแรกเข้าด้วย ส่วนรอบหน้ากรุงศรีเฟิร์สช้อยส์จะพาทุกคนไปเที่ยวที่ไหน อย่าลืมติดตามกันนะ

ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี

สมัครบัตรเครดิตเฟิร์สช้อยส์ได้ที่นี่

สมัครบัตรทันที